วอร์เรน บัฟเฟตต์ (1930.08.30~)
นักลงทุนและนักธุรกิจชาวอเมริกัน อดีตประธานและซีอีโอของเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นปรมาจารย์แห่งการลงทุนคุณค่า และเป็นสัญลักษณ์ระดับตำนานของวงการการเงิน
การประมูลเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับเขามีมูลค่าตั้งแต่ประมาณ 2 พันล้านวอน ไปจนถึง 24.6 พันล้านวอน
นิสัยยิ่งใหญ่ของมหาเศรษฐี
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ตื่นนอนเวลา 6:45 น. ทุกเช้าและเริ่มต้นวันด้วยการอ่านหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับ เขามีชื่อเสียงในการใช้เวลา อย่างน้อยวันละ 5-6 ชั่วโมงอ่านหนังสือ เพื่อค้นหาไอเดียการลงทุน สิ่งที่น่าประหลาดใจคือกิจวัตรของเขานั้นเรียบง่ายและซ้ำ ๆ เขาอาศัยอยู่ที่เมืองโอมาฮาเล็ก ๆ มาทั้งชีวิต และยังคงทำงานในสำนักงานเล็ก ๆ ที่เรียบง่าย
ปรัชญาของบัฟเฟตต์ตั้งอยู่บน “เวทมนตร์แห่งดอกเบี้ยทบต้น” แม้จะร่ำรวยแล้ว เขาก็ไม่ได้ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย แต่เน้นการลงทุนซ้ำเพื่อการเติบโตระยะยาว เขาเคยกล่าวว่า “เหตุผลที่ผมรวยได้ เพราะผมตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และรอคอย” การตัดสินใจอย่างเรียบง่ายและรอบคอบซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเขาพิสูจน์ให้เห็นความเชื่อที่ว่า “ความสำเร็จเกิดจากความน่าเบื่อ”
อาหารที่ชื่นชอบและพฤติกรรมการกิน
พฤติกรรมการกินของบัฟเฟตต์มีชื่อเสียงว่าเรียบง่ายจนคล้ายกับรสนิยมของเด็กประถม ในตอนแรกผู้คนคิดว่าเป็นเพราะเขาถือหุ้นของบริษัทเหล่านี้ แต่ความจริงแล้วเขาแค่มีรสนิยมเหมือนเด็กเท่านั้น
เขาชื่นชอบ แฮมเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์และเชอร์รี่โค้ก ทุกเช้าเขาแวะผ่านดรাইฟ์ทรูของแมคโดนัลด์เพื่อซื้อแฮมเบอร์เกอร์ โดยเลือกเมนูตามสภาวะตลาดหุ้น: ถ้าตลาดตก เขาเลือกเมนูราคาถูก ถ้าตลาดขึ้น เขาซื้อเมนูราคาแพง เขาดื่มเชอร์รี่โค้กวันละ 5 กระป๋อง และชอบพูดเล่นว่า “25% ของร่างกายผมคือเชอร์รี่โค้ก”
สิ่งที่เขาชื่นชอบที่สุดคือการกินไอศกรีมกับหลาน ๆ เขาให้ความสำคัญกับความสุขที่เกิดจากอาหารง่าย ๆ
(เขายังชอบแฮมเบอร์เกอร์ มิลค์เชค คุกกี้โอรีโอ และขนมหวานอื่น ๆ ด้วย)
ปรัชญาเรื่องความรักและความสัมพันธ์
บัฟเฟตต์กล่าวว่า “ความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณได้รับ แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณให้” แม้เขาจะร่ำรวย แต่เขาไม่เคยแสวงหาความสัมพันธ์ที่หรูหรา แต่เลือกเก็บกลุ่มเพื่อนที่ไว้วางใจได้เพียงไม่กี่คน
ภรรยาคนแรกของเขา ซูซาน เป็นคู่ชีวิตที่แท้จริง เธอเข้าใจเขา และเขาก็เคารพในความเป็นอิสระและความเชื่อของเธอ แม้เธอจะจากไป เขายังกล่าวว่า “โชคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผมคือการได้พบซูซาน”
ในความสัมพันธ์ บัฟเฟตต์ให้ความสำคัญกับความจริงใจเหนือสิ่งอื่นใด เขามักพูดว่า “คนคือทุกสิ่งทุกอย่าง” ทั้งในการลงทุนและชีวิต เน้นความไว้วางใจมากกว่าผลประโยชน์ระยะสั้น มิตรภาพอันยาวนานกับชาร์ลี มังเกอร์ที่ดำเนินมากว่า 60 ปี แสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์และความไว้วางใจเพียงใด
บทเรียนที่เราเรียนรู้ได้
ชีวิตของวอร์เรน บัฟเฟตต์ไม่ได้หรูหรา แต่ให้บทเรียนที่ทรงพลัง
เขาพิสูจน์ว่า “ข้อมูลจะงอกเงยตามกาลเวลา” และ “การใช้จ่ายอย่างมีวินัยและนิสัยซ้ำ ๆ” จะสร้างความมั่งคั่งได้ เขายังย้ำว่าความสำเร็จเกิดจากความสัมพันธ์กับผู้คน
กิจวัตรที่เรียบง่าย การอ่านหนังสืออย่างต่อเนื่อง ความสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่บนความไว้วางใจ และการหาความสุขในสิ่งเล็ก ๆ — นี่คือความลับที่ทำให้วอร์เรน บัฟเฟตต์ยังคงเป็นนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
(แม้จะกินแฮมเบอร์เกอร์ทุกวัน เขาก็แสดงให้เห็นว่าการกินด้วยความสุขสามารถนำไปสู่ชีวิตที่ยืนยาวและสุขภาพดีได้)
'เรื่องราวของบุคคล (태국어)' 카테고리의 다른 글
แอนดรูว์ คาร์เนกี – นิสัยอันยิ่งใหญ่ อาหาร และปรัชญาความรักของมหาเศรษฐีระดับโลก (1) | 2025.09.15 |
---|